เมื่อคิดจะสร้างเว็บไซต์ เป็นธรรมดาที่เราจะรู้สึกว่า “ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี” ยิ่งไปเสิร์ชหา ยิ่งเห็นว่าตัวเลือกในท้องตลาดมีเยอะเหลือเกิน ตั้งแต่บริการเว็บสำเร็จรูปที่ทำได้ฟรี บริษัทหรือฟรีแลนซ์ราคาหลักพัน ไปจนถึงราคาหลักแสน…. แตกต่างกันขนาดนี้แล้วเราจะเลือกยังไงดี? 

Banana Technologies จึงมีสาระดีๆ สำหรับคนที่คิดอยากสร้างเว็บไซต์มาฝาก เราเรียบเรียงมาให้เป็นภาษาที่อ่านง่าย แม้คุณจะไม่รู้เรื่องการทำเว็บไซต์เลย ก็สามารถเข้าใจมากขึ้นได้ว่า เมื่อจะเลือกบริษัทรับทำเว็บไซต์นั้น จะต้องดูองค์ประกอบอะไรบ้าง

รู้ว่าสินค้าหรือเนื้อหาของคุณต้องการเว็บไซต์ประเภทไหน

เว็บไซต์มีมากมายหลายประเภท และบริษัทรับทำเว็บไซต์แต่ละแห่งก็มีความถนัดไม่เหมือนกัน เราจึงต้องรู้ก่อนว่า สิ่งที่จะนำเสนอนั้นต้องการเว็บไซต์ประเภทไหน อย่างถ้าเป็นเว็บไซต์ของธุรกิจ ก็มีได้ทั้ง eCommerce Website หรือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ ที่มีระบบการชำระเงินเสร็จสรรพ หรืออาจจะเป็น Business Website คือเพียงประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการ ให้ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่าหน้าร้านอยู่ที่ไหน ติดต่อได้ช่องทางไหนบ้าง แต่ไม่ได้มีการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งแน่นอนว่าการทำ eCommerce Website มีความซับซ้อนกว่ามาก จึงควรเลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญด้าน eCommerce Website โดยตรง

นอกจากเว็บไซต์ 2 ประเภทนี้แล้ว ก็ยังมีประเภทอื่นๆอีก เช่น สื่อออนไลน์ เว็บไซต์ของสถาบันการศึกษา (ซึ่งบางสถาบันก็อาจต้องการฟีเจอร์ให้ซื้อคอร์สออนไลน์ได้) Community Forum Website หรือเว็บไซต์ที่เป็นลักษณะของชุมชนออนไลน์ สามารถตั้งกระทู้พูดคุยกันได้ ตัวอย่างที่คนไทยรู้จักกันดีก็เช่น pantip.com

เว็บไซต์แต่ละประเภทที่กล่าวมามีความแตกต่างกันทั้งดีไซน์ ฟีเจอร์ ระบบหลังบ้าน พฤติกรรมของ User จึงควรเลือกบริษัทพัฒนาเว็บไซต์ที่มีประสบการณ์ตรงทางด้านนั้น หรือมีประสบการณ์ที่หลากหลายเพียงพอที่จะช่วยวิเคราะห์ได้ว่าเว็บไซต์และ User ของคุณต้องการอะไรบ้าง

กำหนดกลุ่ม User ของเว็บไซต์

แม้กระทั่งเว็บไซต์ที่มีเป้าหมายเป็นคนทั่วไป ใครก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต (Everyman) เช่น eCommerce อย่าง Shopee, Lazada ก็ยิ่งต้องมีการดีไซน์ UX, UI ให้เข้าใจง่าย ให้แม้แต่คนที่ไม่ถนัดใช้เทคโนโลยีก็สามารถใช้งานได้

ต้องกำหนดก่อนว่า User หรือกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาใช้งานเว็บไซต์เป็นใคร เพื่อที่จะสามารถบรีฟโปรเจคกับนักพัฒนาเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากการกำหนด User จะทำให้นักพัฒนาสามารถออกแบบ UX (User Experience) และ UI (User Interface) ของเว็บไซต์ได้ตอบโจทย์ ทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่าย และสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ User ตัวอย่างเช่น หากกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ เว็บไซต์ก็ควรมีรูปลักษณ์ทันสมัย รวดเร็ว เชื่อมต่อกับ social medias หรือแอพฯ อื่นๆ ที่พวกเขาใช้ได้ หรือหากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ เว็บไซต์ก็ควรเข้าใจง่าย ตัวหนังสือขนาดใหญ่ชัดเจน เป็นต้น

แม้กระทั่งเว็บไซต์ที่มีเป้าหมายเป็นคนทั่วไป ใครก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต (Everyman) เช่น eCommerce อย่าง Shopee, Lazada ก็ยิ่งต้องมีการดีไซน์ UX, UI ให้เข้าใจง่าย ให้แม้แต่คนที่ไม่ถนัดใช้เทคโนโลยีก็สามารถใช้งานได้

คำนึงถึง Support ที่จะได้รับหลังจบงาน

การสร้างเว็บไซต์ไม่ได้จบในครั้งเดียว เป็นเรื่องปกติมากที่เมื่อเว็บไซต์เสร็จ เริ่มใช้งานจริงแล้ว เราจะนึกได้ทีหลังว่ายังมีฟีเจอร์หรือองค์ประกอบบางอย่างขาดหายไป ไหนยังต้องมีการอัพเดทหน้าใหม่ๆ อัพเดทบล็อก บทความ โปรโมชั่น หรือข้อมูลอื่นๆ ซึ่งบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่ดีจะเตรียม tools ให้คุณสามารถอัพเดทสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย หรืออาจจะมีบริการ support อื่นๆ หลังจบโปรเจคด้วย

นอกเหนือไปจากหน้าตาเว็บไซต์ คือรายละเอียดทางเทคนิค

สมัยนี้การสร้างเว็บไซต์ให้สวยไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป บริการเว็บไซต์สำเร็จรูปก็มีให้เลือกมากมายหลายเจ้า แต่สิ่งที่เหนือไปกว่าดีไซน์ที่สวยงาม คือรายละเอียดทางเทคนิค ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทรับทำเว็บไซต์ในท้องตลาดจึงมีหลายราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน

รายละเอียดทางเทคนิคมีหลายส่วนมาก Banana Technologies ขอยก 3 ตัวอย่างที่ใกล้ตัวทุกคน ได้แก่

– UX, UI

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าความเข้าใจ User เป็นเรื่องสำคัญ และบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่เชี่ยวชาญก็จะคำนึงถึงเรื่อง UX, UI เป็นอย่างมาก เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย User เข้าไปแล้วไม่งง เข้าใจง่ายว่าตรงไหนให้คลิก ให้กรอก ฯลฯ และเหนือไปกว่านั้นคือต้องสามารถทำให้ User มีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์อย่างที่เจ้าของธุรกิจต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการกดซื้อสินค้า ลงทะเบียนให้ข้อมูล สมัครสมาชิก ฯลฯ ซึ่งถ้าเว็บไซต์ใช้งานยาก หรือดูไม่ professional ไม่น่าไว้วางใจ ก็ย่อมทำให้ User หมดความสนใจและออกจากเว็บไซต์ก่อนจะเกิดปฏิสัมพันธ์ต่างๆได้

– Search Engines 

Search Engines หรือที่นิยมที่สุดในปัจจุบันก็คือ Google นั่นเอง ถือเป็นส่วนสำคัญที่นักพัฒนาเว็บไซต์ต้องมีความรู้ เพราะไม่ว่าจะเป็นการวางผังเว็บไซต์ การเขียน Title และ Description ของหน้าต่างๆ ล้วนแต่มีผลกับอันดับของเว็บไซต์บน Search Engines ทั้งสิ้น

– Social Media 

เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากที่สุดเลยก็ว่าได้ เมื่อเรามีเว็บไซต์ใหม่ อัพเดทบทความใหม่ ใครๆก็อยากแชร์ลงบน Social Media เพื่อเพิ่มการมองเห็นให้มากที่สุด ซึ่งหลายคนคงเคยเห็นการแชร์บทความลงบน Facebook บทความจากบางเว็บไซต์ก็แสดงผลเป็นรูปภาพสวยงาม แต่บางเว็บไซต์ก็ขึ้นเป็นโลโก้ เป็นภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับบทความ สิ่งเหล่านี้มาจากความใส่ใจในรายละเอียดที่แตกต่างกันนั่นเอง

Banana Technologies หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่คิดจะสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมใดๆ สามารถคอมเมนต์ทิ้งคำถามไว้ได้เลย เรายินดีให้คำแนะนำครับ