Digital Transformation คืออะไร สำคัญมากแค่ไหน?

Digital Transformation คืออะไร สำคัญมากแค่ไหน?

Digital-Transformation-คืออะไร

Digital Transformation คือการปรับองค์กรให้เป็นดิจิทัล ตั้งแต่การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการทำงาน ไปจนถึงการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าหรือบริการได้ 

การทำ Digital Transformation นั้นก็เพื่อให้ธุรกิจก้าวทันความเปลี่ยนแปลง และไม่โดน Digital Disruption เล่นงาน จนธุรกิจต้องหยุดชะงักไปนั่นเองครับ

ตัวอย่างความสำเร็จของ Digital Transformation

ก่อนจะเล่าว่า Digital Transformation ทำอย่างไรได้บ้าง เราขอเริ่มด้วยเคสตัวอย่างสนุกๆ ของการทำ Digital Transformation ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพชัดเจนขึ้นครับ

NETFLIX

Netflix ปรับตัวด้วยความเชื่อว่า อินเตอร์เน็ตจะเป็นตัวแปรสำคัญในการทำธุรกิจ แรกเริ่มในปี 1997 เค้าเริ่มลงสนามออนไลน์ด้วยการเปิดให้ลูกค้าเช่า DVD ผ่านเว็บไซต์ จากนั้นในปี 2007 ก็เริ่มเปิดบริการสตรีมมิ่ง และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้ายักษ์อย่างทุกวันนี้

จากร้านเช่า DVD สู่ธุรกิจสตรีมมิ่งที่มีลูกค้าทั่วโลก… เราเชื่อว่า Netflix เป็นบริษัทแรกที่ทุกคนนึกถึง เมื่อพูดถึงการปรับตัวเป็นดิจิทัล และนิตยสาร Harvard Business Review ก็ยังจัดให้ Netflix เป็น Digital Transformation อันดับ 1 ของโลกอีกด้วย Netflix ไม่ได้เพียงประสบความสำเร็จทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การดูหนัง ดูซีรีส์ของทุกคนไปอย่างสิ้นเชิง กระทบไปถึงอุตสาหกรรมภาพยนต์ที่ต้องหันมาลงแพลตฟอร์มออนไลน์ และในที่สุด Netflix ก็ผันตัวไปเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์เอง

แต่ก็ไม่ใช่ว่า Netflix จะปรับตัวครั้งเดียวแล้วกลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเลยนะครับ แรกเริ่มในปี 1997 เค้าเริ่มลงสนามออนไลน์ด้วยการเปิดให้ลูกค้าเช่า DVD ผ่านเว็บไซต์ แล้วรอรับ DVD ทางไปรษณีย์ เพราะตอนนั้นคนก็ใช้อินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลายแล้ว ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นจะเจอปัญหาค่าส่งไปรษณีย์ที่สูง แต่ Netflix ก็ยังปรับตัวมาเรื่อยๆ ด้วยความเชื่อว่าอินเตอร์เน็ตจะเป็นตัวแปรสำคัญในการทำธุรกิจ จนมาในปี 2007 จึงเริ่มเปิดบริการสตรีมมิ่ง และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการพัฒนาของคุณภาพอินเตอร์เน็ต จนกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเจ้ายักษ์อย่างทุกวันนี้นั่นเอง

IKEA

คนสามารถลองแต่งบ้านจากเฟอร์นิเจอร์ Ikea ได้ผ่านเทคโนโลยี AR แค่ยกกล้องมือถือส่องไปในมุมห้องที่เราต้องการ เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกก็จะปรากฏอยู่บนภาพทันที

การไป Ikea ครั้งแรกๆ อาจจะสนุก แต่พอผ่านไปหลายครั้งเราก็เริ่มขี้เกียจขับรถไปนอกเมือง ขี้เกียจเดินหาของในร้านที่ใหญ่เหลือเกินใช่ไหมครับ Ikea เองก็เห็นจุดอ่อนนี้ จึงปรับให้มีบริการกดสั่งออนไลน์ แล้วจะใช้บริการเดลิเวอรี่ หรือไปรับของที่ร้านเองก็ได้ นอกจากนี้ Ikea ยังเริ่มเปิดร้านขนาดเล็กใจกลางเมืองใหญ่ๆ เพื่อเป็นจุดรับสินค้าที่สั่งออนไลน์โดยไม่ต้องขับรถไปไกล พร้อมทั้งมีของชิ้นเล็กๆ อย่างพวกอุปกรณ์จัดระเบียบบ้านวางขายด้วย… ซึ่งต้องยอมรับว่าอุปกรณ์จัดระเบียบบ้านนี่เป็นของที่ขายดีมากของ Ikea ไปกี่ครั้งก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกันมา เรียกว่าเป็นแผนที่ได้ประโยชน์หลายทางเลย

ซึ่งใครที่เคยเปิดเว็บไซต์ Ikea ก็รู้ดีว่าเป็นเว็บที่มี User Experience ดีมาก นอกจากนี้เค้าก็ยังทำแอพพลิเคชั่น ที่ให้คนสามารถลองแต่งบ้านจากเฟอร์นิเจอร์ Ikea ได้ผ่านเทคโนโลยี AR แค่ยกกล้องมือถือส่องไปในมุมห้องที่เราต้องการ เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกก็จะปรากฏอยู่บนภาพทันที ซึ่งเรายังเห็นธุรกิจค้าปลีกอีกหลายเจ้านำ AR มาใช้เสริมสร้างประสบการณ์ซื้อของออนไลน์ให้กับลูกค้า อย่างแอพฯ Sephora ที่ลองสีลิปสติกได้ หรือแอพฯ Nike ที่ใช้ AR วัดขนาดเท้า ให้ลูกค้าเลือกไซส์รองเท้าได้อย่างมั่นใจ

Digital Transformation ทำอย่างไรได้บ้าง?

การทำ Digital Transformation สามารถมีรูปแบบแตกต่างกันไปตามประเภทขององค์กร แต่เราขออธิบายเป็น 2 ข้อใหญ่ๆ คือ ส่วนของกระบวนการทำงานในองค์กรเอง และส่วนของการเข้าถึงลูกค้า

1. Digital Transformation ในส่วนของกระบวนการทำงานในองค์กร

ก็คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ง่ายขึ้น เรียกง่ายๆว่าทำน้อยแต่ได้มากครับ อาทิ

  •  การใช้ซอฟต์แวร์วางแผนการบริหารทรัพยากร หรือ Enterprise Resource Planning (ERP) 

อธิบายง่ายๆ คือ ซอฟต์แวร์ประเภทนี้จะช่วยให้เรานำข้อมูล หรือ Data อันมหาศาลในองค์กร มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการวางแผนธุรกิจครับ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนงบประมาณ วางแผนกำลังคน หรือการตัดสินใจเรื่องใดๆก็ตาม 

เราเชื่อว่า เดี๋ยวนี้หลายคนคงได้ยินคำว่า Data-driven organization หรือ องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล กันบ่อยๆ ซึ่งการจะก้าวไปเป็น Data-driven organization ได้ ซอฟต์แวร์ ERP ก็เป็นส่วนสำคัญครับ ลองคิดดูว่าหากเราต้องรวบรวมข้อมูลเองจากหลายแผนก หลายโปรเจค จะทำให้เกิดการตกหล่น ขาดความแม่นยำอย่างแน่นอน นั่นทำให้เราใช้ Data ที่มีได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้ามี ERP ทุกอย่างจะง่ายขึ้น แม่นยำขึ้น และช่วยลดเวลาในการทำงานได้อีกด้วยครับ

ERP สามารถออกแบบ หรือ customize ให้เข้ากับแต่ละธุรกิจได้โดยเฉพาะ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหน ก็สามารถใช้งาน ERP ได้ครับ

  • การใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในแผนกต่างๆ 

เช่น ซอฟต์แวร์บัญชี ซอฟต์แวร์บริหารงาน (Project Management) ซอฟต์แวร์บริหารทรัพยากรบุคคล ฯลฯ ซึ่งช่วยลดการใช้เอกสาร เพิ่มความสะดวกและแม่นยำในการทำงาน และสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ จากอุปกรณ์ใดก็ได้

2. Digital Transformation ในส่วนของการเข้าถึงลูกค้า

ส่วนนี้ทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว กับการที่ธุรกิจค้าขายหันมามีร้านค้าออนไลน์ (E-commerce) ธุรกิจบริการก็มีออนไลน์บุกกิ้ง ธุรกิจด้านสื่อบันเทิงก็มีแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น เหล่านี้ถือเป็น Digital Transformation ทั้งหมดครับ

ทำไมทุกองค์กรต้องทำ Digital Transformation?

อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงเห็นภาพคร่าวๆแล้วว่า Digital Transformation มีความสำคัญอย่างไรกับองค์กรบ้าง เราขอสรุปให้อีกครั้งดังนี้ครับ

  • เพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงักไปกับ Digital Disruption 

ยกตัวอย่างการหยุดชะงักที่เห็นภาพชัดก็เช่น ธุรกิจเช่าวิดีโอที่ตาม Netflix ไม่ทัน หรืออย่างแท็กซี่ทั่วไปที่ถูก Grab เข้ามาแย่งลูกค้า ทำให้ต้องปรับตัวตามๆ กันไป เพราะไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเปลี่ยนไปอยู่บนโลกออนไลน์กันหมด อีกทั้งเทคโนโลยียังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า (User Experience)

Digital Disruption จะเกิดขึ้นกับทุกธุรกิจอย่างแน่นอน จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเอง ยิ่งเราปรับตัวเร็วก็ยิ่งได้เปรียบคู่แข่งครับ

  • เพื่อขยายขีดความสามารถขององค์กร ให้ทำน้อยแต่ได้มาก

การใช้เทคโนโลยีและ Data ให้เกิดประโยชน์ ทำให้เราใช้เวลาทำงานน้อยลง ลงทุนน้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น และยังช่วยลดความเสี่ยงในการตัดสินใจผิดพลาดได้อีกด้วย

ทุกคนคงได้คำตอบแล้วว่า องค์กรเราจำเป็นต้องทำ Digital Transformation ไหม และ Banana Technologies ก็หวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจคำว่า Digital Transformation มากขึ้น หากมีคำถามเรื่องใดเพิ่มเติมก็คอมเมนต์บอกกันได้เลยนะครับ หรือถ้าคุณอยากปรึกษาเรื่องการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่น เพื่อส่งเสริม Digital Transformation ในองค์กร ก็สามารถปรึกษาเราได้ที่ 083-078-7209