อยากพัฒนาแอพพลิเคชั่น จ้างบริษัทหรือฟรีแลนซ์ดี?
อยากพัฒนาแอพพลิเคชั่น จ้างบริษัทหรือฟรีแลนซ์ดี?
![[Banana-Tech]-SEO-Content---พัฒนาแอพพลิเคชั่น-เลือกบริษัทหรือฟรีแลนซ์ดี](http://www.meetbananatech.com/wp-content/uploads/2021/02/Banana-Tech-SEO-Content-พัฒนาแอพพลิเคชั่น-เลือกบริษัทหรือฟรีแลนซ์ดี.jpg)
หนึ่งในคำถามยอดฮิตจากคนที่อยากพัฒนาแอพพลิเคชั่นของตัวเอง คือระหว่างการจ้างบริษัทซอฟต์แวร์ VS จ้างฟรีแลนซ์ อะไรดีกว่ากัน Banana Technologies จึงขอยกประเด็นนี้มาตอบคำถาม แยกข้อดี-ข้อด้อยของแต่ละฝ่ายให้อย่างชัดเจน เพื่อประกอบการตัดสินใจของทุกคนครับ
ฟรีแลนซ์
มาเริ่มที่ฟรีแลนซ์กันก่อน เราเชื่อว่าตอนนี้มีฟรีแลนซ์รับพัฒนาแอพพลิเคชั่นเก่งๆ มากมาย และก็มีช่องทาง แพลตฟอร์มต่างๆ ให้เราสามารถค้นหาฟรีแลนซ์ได้ง่ายขึ้นด้วย ถ้าอย่างนั้นเราลองมาดูข้อดีของฟรีแลนซ์กันเลยครับ
ข้อดีของฟรีแลนซ์
- ราคา
จุดเด่นที่สุดของฟรีแลนซ์ก็คือราคาที่ถูกกว่านั่นเอง ซึ่งอาจมีราคาเริ่มกันตั้งแต่หลักพันเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูความสามารถและราคาให้เหมาะสมกับสเกลงานที่เราต้องการด้วยนะครับ
- ความยืดหยุ่น
การไม่มี Office Hour ของฟรีแลนซ์ก็ทำให้พวกเขาสามารถทำงานเร่งด่วนให้ได้ อะไรที่เกิดผิดพลาดต้องรีบแก้ไขดึกๆ ดื่นๆ ฟรีแลนซ์ก็สามารถทำให้ได้ อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันนี่ก็อาจเป็นข้อเสียได้เช่นกัน ซึ่งเดี๋ยวเราจะกล่าวถึงต่อไปครับ
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
กรณีนี้เราพูดถึงฟรีแลนซ์เก่งๆ เท่านั้นนะครับ ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่พวกเขาก็เคยเป็น Developer ในบริษัทชื่อดังมาก่อน มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์เยอะพอตัวเลยทีเดียว
ข้อเสียของฟรีแลนซ์
- ไม่ค่อยมีซัพพอร์ทหลังจบโปรเจค
ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่ไม่ได้รับรองเรื่องบริการซัพพอร์ทหลังจบโปรเจค ซึ่งเราต้องมีการอัพเดท แก้ Bugs ต่างๆอยู่แล้ว ถ้าฟรีแลนซ์คนเก่าตกลงรับงานต่อก็โชคดีหน่อย แต่ถ้าต้องหาคนอื่นมาแก้ไขให้ ก็ต้องมาปวดหัวหาคนอีกรอบ และเรื่องการต่องาน ประสานงานก็จะลำบากด้วยครับ
- ความน่าเชื่อถือน้อยกว่าบริษัท
ต้องยอมรับว่าบริษัทนั้นมีความซีเรียสเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของตัวเองมากกว่าฟรีแลนซ์ อย่างเรื่องการไม่เปิดเผยข้อมูลของลูกค้า ดังนั้นหากจะจ้างฟรีแลนซ์ก็อย่าลืมให้เขาเซ็นสัญญาไม่เปิดเผยข้อมูลด้วยนะครับ
- อาจจะติดต่อยาก
ข้อเสียอีกด้านของการไม่มี Office Hour ก็คือเรื่องการติดต่อที่ยากลำบาก หากเจอฟรีแลนซ์ที่มีความรับผิดชอบสูงก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าเจอคนติดต่อยากๆ ก็จะทำให้เราเสียเวลาไปเยอะเลย ยิ่งหากฟรีแลนซ์รับงานหลายเจ้าพร้อมกัน ก็ยิ่งเสี่ยงว่าจะติดต่อนัดเวลากันยากขึ้น
- ความเชี่ยวชาญไม่หลากหลาย
หากจ้างฟรีแลนซ์เป็น Application Developer คนเดียว เราก็จะได้ความเชี่ยวชาญแค่ด้านเดียว แต่ที่จริงหากอยากให้โปรเจคสมบูรณ์นั้นก็ยังต้องใช้ทั้ง UX-UI Designer, Content Creator, Graphic Designer ฯลฯ หรือหากจะเลือกจ้างฟรีแลนซ์หลายคน หลายหน้าที่ เราก็ต้องประสานงานเอง ทำให้กินเวลาและพลังงานเยอะกว่าการจ้างบริษัทที่มีครบทีม
บริษัท
มาดูส่วนของบริษัทกันบ้างว่าเทียบกับฟรีแลนซ์แล้ว แตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ
ข้อดีของบริษัท
- มีผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน
สิ่งที่ดีที่สุดของการจ้างบริษัทเลยก็คือเราจะได้ผู้เชี่ยวชาญหลายด้านมาประกอบร่างโปรเจคให้ เพราะการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้สมบูรณ์นั้นต้องใช้คนหลายฝ่ายดังที่กล่าวไป ไม่ว่าจะเป็น Developer, UX-UI Designer, Tester, Content Creator ซึ่งในบริษัทซอฟต์แวร์ดีๆ มักมีครบทีมอยู่แล้ว รวมถึงมี Project Manager ช่วยประสานงานจากเราไปสู่ทีมต่างๆ ทำให้การทำงานง่าย ไม่ปวดหัว และออกมาสมบูรณ์ตามที่ต้องการ
- การซัพพอร์ทหลังจบโปรเจค
บริษัทมีบริการตรงนี้อยู่แล้ว และหากส่วนไหนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็จะแจ้งอย่างชัดเจน ที่สำคัญคือเราสามารถติดต่อบริษัทได้ง่าย มั่นใจว่าไม่หายหน้าไปไหน ซึ่งการได้ทีมเดิมมาแก้ไขงานให้ก็ย่อมง่ายกว่าการหาคนใหม่ครับ
- บริการแบบ Full Package
ในบริษัทส่วนใหญ่ยังมีทีมอื่นๆ ที่พร้อมให้บริการลูกค้าแบบ Full Package หากเราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ธุรกิจ ศึกษาตลาด หากเรามีไอเดียฟุ้งๆ แต่ไม่มีเวลาศึกษาเรื่องเหล่านี้ การจ้างบริษัทแบบ Full Package ก็ช่วยได้เยอะครับ
- ความน่าเชื่อถือ
อย่างที่กล่าวไปว่า บริษัทซีเรียสกับการรักษาชื่อเสียงของตัวเองมาก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นความตรงต่อเวลา การรักษาข้อตกลง การไม่เปิดเผยข้อมูลของลูกค้า ก็อุ่นใจได้อย่างแน่นอน
ข้อเสียของบริษัท
- ราคาสูงกว่าฟรีแลนซ์
แน่นอนว่าการจ้างบริษัทพัฒนาแอพพลิเคชั่นนั้นใช้เงินมากกว่า บริษัทดีๆ ที่เชื่อถือได้อาจมีราคาเริ่มต้นที่หลักแสน แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือทีมงานและบริการที่ครบอย่างที่กล่าวมานั่นเอง
- อาจใช้เวลาทำงานมากกว่า
เนื่องจากบริษัททำงานกันเป็นทีม และมีกระบวนการมากกว่าฟรีแลนซ์ จึงมี Deadline ที่แน่นอน ไม่สามารถทำงานเร่งด่วนทันใจให้ได้เหมือนฟรีแลนซ์ครับ
สรุป แบบไหนเหมาะกับใคร?
ฟรีแลนซ์เหมาะกับ
- โปรเจคที่ไม่ซับซ้อนมาก
- บริษัทที่มีทีมค่อนข้างครบแล้ว ต้องการจ้างฟรีแลนซ์มาช่วยเติมเต็มงานบางส่วนเท่านั้น
บริษัทเหมาะกับ
- โปรเจคใหญ่ ซับซ้อนมาก ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเยอะ
- โปรเจคที่ confidential มาก ต้องใช้คนที่มีความน่าเชื่อถือสูง
- คนที่ไม่ค่อยมีเวลา ไม่อยากปวดหัว ต้องการผู้ช่วยตั้งแต่ต้นจนจบ
- คนที่มีไอเดีย แต่ยังไม่ชัดเจน ต้องการคนช่วยศึกษาตลาด วิเคราะห์รอบด้านก่อนเริ่มโปรเจค
คิดว่าหลายคนคงได้คำตอบกันแล้วว่าโปรเจคแอพพลิเคชั่นที่ตัวเองอยากทำนั้น ควรจ้างฟรีแลนซ์หรือบริษัทซอฟต์แวร์ดี แต่หากใครยังไม่แน่ใจ อยากลองปรึกษาเรื่องโปรเจคกับ Banana Technologies ก่อน ก็โทรสอบถามเราได้นะครับที่ 083-078-7209